วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553

ชุมชนกับการเมือง

ชุมชนกับการเมือง

วันนี้ได้เจอ ผู้เข้าอบรมต้นกล้าอาชีพ วิสาหกิจชุมชน มหาวิทยาลัยชีวิต ผมถามเขาว่าไปไหนมาไม่เห็นหลายวัน

เขาตอบ ผมไปชุมนุมที่กรุงเทพสามวัน เพิ่งกลับมา

ไปกันกี่คนครับ อยู่กินกันยังไง

ไปโดยรถทัวร์ห้าคัน นอนในเต้น มีห้องน้ำสะดวกดีอยู่ ไม่ลำบากมาก

แล้วมีการติดต่อมาจากทางกรุงเทพ หรือยังไงถึงได้ไปกัน ผมถาม

ชุมชนของเราตัดสินใจไปกันเอง ไม่ได้รับเงินค่าจ้างอะไร

มีคนไปชุมนุมมากไม๊ ครับ ที่กรุงเทพ

เป็นล้านคนนะ มันสุดลูกหูลูกตาเลย

มากขนาดนั้นเลยเหรอครับ แล้วผู้ชุมนุมเขาต้องการอะไร

คุณพ่อ นักศึกษา อายุ 60 ตอบ ก็อยากให้รัฐบาลยุบสภา เพราะเป็นรัฐบาลที่มาจากทหาร

พ่อได้ข้อมูลมากจากที่ไหน

ที่บ้านมีจานดาวเทียมสองจาน มีทั้งหมด 140 ช่อง ก็ดูหลายๆ ช่อง และดูจากช่องของเสื้อแดงด้วย

ถ้าแกนนำต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประธานาธิบดี พ่อคิดว่ายังไง ครับ

คุณพ่อ ตอบ ไม่ได้ต้องการอย่างนั้น แค่รัฐบาลยุบสภาก็พอ การปกครองแบบที่มีพระมหากษัตรเป็นประมุข เป็นสิ่งที่ต้องอยู่คู่กับสังคมไทย

..

ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น มี ส.ส. มาจากพรรคเพื่อไทย ชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาล ได้ร่วมกิจกรรมทางการเมืองเป็นอย่างดี และมีการเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครของชุมชน ซึ่งกิจกรรมต่างๆ จะอยู่ภายใต้การดูแลของ เทศบาลนครขอนแก่น ที่มีนายกเทศมนตรีดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สามติดต่อกัน

ประชาชนในชุมชนต่างๆ ที่เป็นแม่บ้าน ผู้เกียรณอายุ จะมีกิจกรรมทางการเมืองเป็นปกติอยู่แล้ว และมีส่วนร่วมและสนใจการเลือกตั้งต่างๆ มากกว่าประชาชนที่เป็นลูกจ้าง พนักงานประจำ ที่เป็นคนหนุ่มสาว

อย่างที่พอทราบกันว่า ภาคอีสานโดยมากจะเป็นพื้นที่ของ พรรคเพื่อไทย

ถ้ามีการยุบสภา การที่พรรคประชาธิปัตย์ จะเจาะเข้ามาในเขตอีสาน คงเป็นไปได้ยากมากในสถานการณ์นี้ พรรคการเมืองใหม่ ดูแล้วยังจะมีโอกาสมากกว่า เพราะมีฐานเสียงจากกลุ่มพ่อค้า คนเมืองชนชั้นกลาง แพทย์ อาจารย์มหาลัยบางส่วน แต่สำหรับ อ.เมือง ขอนแก่น คงจะไม่สามารถเอาชนะเพื่อไทยได้ เพราะมีฐานเสียงที่เหนียวแน่นมากกว่าตามที่เล่ามา

ที่ประชาธิปัตย์บอกว่าจะได้ ส.ส. 280 คน เป็นไปไม่ได้แน่นอน 200 ก็ไม่รู้จะถึงหรือป่าว เพราะจะโดนแย่งคะแนนเสียงจากพรรคการเมืองใหม่ และภูมิใจไทย แต่กับเพื่อไทยจะมีฐานเสียงที่แน่นอนกว่า

ถ้าถามว่ามีคนเสื้อแดงมากน้อยแค่ไหนในอีสาน

เอาเฉพาะใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ฐานเสียงของเพื่อไทยประมาณ 50% เป็นอย่างน้อย อีก 50% ก็ต้องแบ่งกันระหว่าง ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และพรรคการเมืองใหม่

ถ้าเอารอบๆ ตัวผม ญาติพี่น้อง เพื่อน และที่ทำงาน มีเสื้อเหลืองและเสื้อแดง พอๆ กัน

ถ้าเอาทั้งอีสาน ที่ไม่ใช่ อ.เมือง อาจจะเป็นเสื้อแดงสัก 90% ส่วนใน อ.เมือง ของอีสาน ก็คงคล้ายๆ กัน คือมีหลายกลุ่มปนกัน ยกเว้นบางจังหวัดที่โดยมากอาจจะเป็นเสื้อแดง เช่น อ.เมือง จ.อุดรธานี

ตัวเลขอันนี้ผมประมาณการเอาเองนะครับ แต่ถ้ายุบสภาจริงๆ พรรคเพื่อไทยคงจะได้เสียงมากที่สุดครับ ในสถานการณ์ ณ วันนี้

ฺBy ODevel


วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2553

Stuck in your Dream



คิดว่าคงพอจะรู้จัก The Beatles กันบ้างสำหรับเด็กรุ่นใหม่ วงดนตรีอังกฤษที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของโลก หรือ Elvis สุภาพบุรุษ King of Rock ‘N’ Roll ตลอดการ

ถ้าคุณพ่อ คุณแม่ของคุณ เคยฟังเพลงของทั้งสองศิลปิน ผมเชื่อว่า ณ วันนี้พวกเขายังฟังเพลงในวันวานนั้นอยู่ อย่างไม่เบื่อ ถึงแม้มันจะผ่านมาแล้ว 40 ปี หรือมากกว่า

หรือใครที่อายุสามสิบขึ้นแล้ว คุณอาจจะเคยเป็นแฟนเพลงของ วงไมโคร

คุณเคยเห็นพ่อแม่ ที่อยากจะให้ลูกดำเนินรอยตามตนเอง หรือ อาจจะให้ลูกทำอะไรบ้างอย่าง ที่เป็นความฝันของตัวเองที่ไปไม่ถึง เช่น ให้เล่นเทนนิส เล่นกอล์ฟ หรือ อยากให้ลูกเป็นหมอ

ผมเคยอยากเป็นนักดนตรี ณ วันนี้ก็ยังอยากอยู่ และพอจะได้ลองแต่งเพลงเล่นๆ ลงในเว็บไซด์บ้าง และยังจำภาพการได้เล่นดนตรีสมัยเรียน หรือการเคยทำงานควบคุมระบบเสียงให้กับนักดนตรีชื่อดังในผับแห่งหนึ่ง ซึ่งมีวงดนตรีที่ยังเล่นเพลงของ The Beatles และคิดว่าพวกเขาจะเล่นต่อไปจนเล่นไม่ไหวด้วยวัยใกล้จะ 60 กันแล้ว

มีคนอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งผมฟังมาจากทีวีอีกที เป็นกลุ่มนักศึกษาที่เคยเข้าป่า ไปเป็นคอมมิวนิสต์ ในช่วงปี 2516 และ 2519 จากผลกระทบของรัฐบาลเผด็จการ ถ้าใครนึกไม่ออกว่าคอมมิวนิสต์เป็นยังไง ก็ดูตัวอย่างประเทศจีนครับ คือรัฐบาลจะเป็นผู้จัดการทรัพยากรทุกอย่างว่า ประชาชนคนใดจะได้รับทรัพยากรอะไร และทำกิจกรรมอะไรได้บ้าง ทุกคนเสมอภาคเท่าเทียมกันหมด

คนกลุ่มนี้ปัจจุบันมีอยู่ในกลุ่มนักการเมืองจำนวนมาก และหลายๆ คนยังคงมิอาจลืมอุดมการณ์ในครั้งวัยหนุ่มสาวยุคบุปผาชนได้ และยังอยากให้สังคมมีความเสมอภาคเท่าเทียมทั่วกัน โดยวิธีการที่จะให้ความความปรารถนาดังกล่าวเกิดขึ้นได้ โดยผ่านการเลือกที่จะอยู่ในกลุ่มการเมืองที่จะตอบสนองความต้องการนั้นได้ และเป็นส่วนนึงที่ทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองจนมาถึงปัจจุบันนี้

กลุ่มคนดอกไม้ดังกล่าวมีในกลุ่มอื่นด้วย เช่น สื่อมวลชน หรือกลุ่มองค์กร NGO แต่กลุ่มนี้แตกต่างจากกลุ่มแรก เพราะพวกเขาสามารถหลุดออกมาจากความฝันวัยหนุ่มสาวได้ และสามารถปรับตัวและเข้าใจสังคมที่เปลี่ยนไปได้

ถ้าคุณเป็นคนที่ยังฟัง Elvis หรือ สุรพล อยู่ มันเป็นความบันเทิงที่คุณได้มีส่วนในการรักษาสิ่งดีๆ ในอดีตไว้
แต่ถ้าคุณเป็นพ่อ ประเภทที่อยากให้ลูกเป็นโน่นเป็นนี้ หรือให้ลูกเป็นผู้สานฝันของตนเองต่อให้สำเร็จ คุณคิดว่ามันจะดีกับลูกคุณแล้วหรือ

หรือคุณติดอยู่ในความฝันอุดมการณ์ยุคบุปผาชน คุณคิดว่ามันยังจะเหมาะกับสังคมในปัจจุบันหรือ สหภาพโซเวียต เป็นมหาอำนาจที่ล่มสลายไปแล้วอย่างไม่น่าเชื่อ กำแพงเบอร์ลินของเยอรมันถูกพังลงไป และรวมประเทศเยอรมันเป็นหนึ่งเดียว จีน มิอาจจะต้านกระแสของโลกทุนนิยมได้ ต้องปรับตัวและสร้างเมืองใหม่เพื่อเปิดประเทศให้ไปสู่มหาอำนาจของโลกทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง

และถ้าคุณคิดว่าแนวคิดดังกล่าวสามารถเปลี่ยนแปลงประทศไทยได้ คุณควรจะต้องให้ประชาชนคนอื่นเดือนร้อนน้อยที่สุด เคารพสิทธิของผู้อื่นให้มากๆ ถ้าคุณคิดจะทำในสิ่งเป็นประโยชน์กับส่วนรวมจริงๆ มิใช่ทำเพียงเพื่อสานฝันวันวานให้สำเร็จด้วยวิธีใดก็ได้ โดยไม่สนใจว่าประชาชนและประเทศชาติจะเป็นยังไง

หรือคุณอาจจะมีฝันในวันใหม่ ของคุณคนเดียว ที่หอมหวานกว่าวันวาน ที่ต้องแลกด้วยประเทศไทย

By ODevel



Blowin' In the Wind - Bob Dylan

วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2553

แบบฝึกหัดของประเทศไทย



แบบฝึกหัดของประเทศไทย

นักดนตรีเพือชีวิตคนนึงพูดว่า การชุมนุมของเสื้อแดง เป็นจุดหนึ่งที่ เราคนไทยต้องผ่านพ้นไปด้วยกัน เพื่อการพัฒนาของสังคม

การชุมนมของประชาชน เป็นเรื่องปกติของไทยไปแล้ว แต่ไม่เหมือนกับต่างประเทศที่เขาชุมนุมเพื่อจุดประสงค์ที่หลากหลาย ไม่ใช่ชุมนุมเพื่อผลทางการเมืองเหมือนบ้านเรา

การชุมนุมจึงเป็นแบบฝึกหัดที่คนไทยทุกคนมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะต้องการหรือไม่ คุณต้องได้มีส่วนร่วมในโจทย์ข้อย่อยของโจทย์ข้อใหญ่ ตามบทบาทและผลกระทบที่จะเกิดกับคุณ

แต่โจทย์การชุมนุมครั้งนี้ เป็นโจทย์ที่ไม่อาจจะทราบคำตอบที่ถูกต้องได้ เราคนไทยจึงต้องร่วมกันตอบเพื่อให้คำตอบออกมาดีที่สุด เพื่อให้เราผ่านแบบฝึกหัดข้อนี้ไปด้วยกัน

ทุกย่างก้าวของชีวิต ต้องพานพบความเจ็บปวด
No Pain, No Gain.






วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553

เรียนปริญญาเอกไปทำไม?

เรียนปริญญาเอกไปทำไม?

มีนักข่าวสายบันเทิง สนทนากันว่า คนพากันไปเรียน MBA กันเยอะแยะ มีทั้งประเภทตกงาน แล้วพ่อแม่ไล่ให้ไปเรียน เรียนแล้วไม่รู้ได้เอาไปใช้กันหรือป่าว หรือไม่มีอะไรจะทำกัน เลยต้องไปเรียนฆ่าเวลา

เขาพูดกันในหัวข้อ หลักสูตร บริหารธุรกิจบันเทิง โดยอดีตผู้บริหารค่ายเพลงแห่งหนึ่ง

ผู้ดำเนินรายการถามต่อว่า วงการบันเทิงเขาก็อยู่กันได้อยู่แล้ว ดาราก็มีมากขึ้นทุกวัน จำเป็นด้วยเหรอต้องมีหลักสูตรนี้

แขกรับเชิญ ตอบว่า ในบ้านเรายังไม่มีหลักสูตรนี้ เพื่อให้ธุรกิจด้านนี้ ได้มีการบริหารจัดการที่ดี และผู้บริหารที่มีความรู้ความเข้าใจเฉพาะในด้านนี้จริงๆ ในระดับปริญญาตรี เรียนเพื่อเป็น Specialist ปริญญาโทเรียนเพื่อเป็นผู้บริหาร ปริญญาเอกเรียนเพื่อแสวงหาความรู้ใหม่ สร้างนวัตกรรมใหม่ให้เกิดในสาขาของตนเอง

และเขากล่าวต่ออีกว่า การที่มีคนเข้ามาเรียน MBA มากๆ มันก็เป็นเรื่องดี ที่เขาได้เรียน ดีกว่าที่จะมีคนจบ ป.โท น้อยๆ มันจะเกิดประโยชน์กับผู้เรียนแน่นอนไม่มากก็น้อย

สำหรับผม การเรียน MBA ทำให้เปิดความคิดและเข้าใจชีวิตมากขึ้นว่า เราต้องหมุนตามโลก เป็นไปไม่ได้ที่จะให้โลกหมุนตามเรา และก็ได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นแน่นอนครับ คุณจะมีมุมมองใหม่เกิดขึ้น แต่จะเป็นในแง่มุนไหนมันอยู่ที่แต่ละคนว่าจะเห็นอะไร

หรือแม้แต่เพียงคุณได้ไปอบรมสัมนาอะไรสักเรื่อง ถ้าคุณเปิดใจรับความรู้ใหม่ คุณก็จะได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างจากที่ผ่านมา บางทีอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของคุณก็ได้ครับ

และถ้าเราจบโทแล้ว จะเรียนปริญญาเอกไปทำไมกัน

ถ้าคุณอยู่ในสายอาจารย์มหาลัย ที่สุดแล้วคุณก็ต้องเรียนปริญญาเอก ไม่ว่าคุณจะอยากเรียนหรือไม่ เพราะเป็นความต้องการของมหาลัยต่างๆ ที่จะต้องมีบุคลากรในระดับปริญญาเอก ถ้าใครอยากจะเป็นอาจารย์มหาลัย ควรจะเรียนในสาขาเดียวกันจนถึง ป.เอก เพราะเป็นข้อกำหนดของมหาลัย ที่ต้องการผู้เชียวชาญในสาขานั้นๆ ถ้าคุณเรียนในสาขาเศรษฐศาตร์ หรือการเงิน การบัญชี จะเป็นที่ต้องการของทุกมหาลัย เพราะโดยมากผู้ที่จบโทและเอกในสาขานี้จะไปอยู่ในภาคเอกชนมากกว่า เพราะมีค่าตอบแทนสูงกว่า มหาวิทยาลัยเอกชนในกรุงเทพบางที (ม.ชื่อดัง อยู่ก่อนเข้าดอนเมือง) ทั้งคณะในสาขานี้อาจจะมีอาจารย์ ป.เอก เพียง คนสองคนเท่านั้นเอง ไม่ต้องพูดถึงมหาลัยต่างจังหวัด อาจจะไม่มีเลย หรือกำลังไปเรียนต่อกันอยู่ โดยมากก็ 5ปี ผ่านไปยังไม่จบกันกลับมา

ในภาคเอกชน อย่างรายการเกี่ยวกับ ขายตรง ประกันชีวิต และ MLM ผู้ดำเนินรายการอย่างน้อยสองคนก็เป็น ดอกเตอร์

ที่ผมรู้จัก จะเป็นสายนักพูดและอบรมสัมมนา พอเขาจบ ป.เอก ก็เป็นประโยชน์กับเขามากครับ เพราะโดยมากเขาจะมีชื่อเสียงในด้านนี้อยู่แล้ว พอจบมาก็ช่วยเสริมและต่อยอดงานของเขาได้มากขึ้นและคุ้มค่า ได้มีการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้กับผู้เขาฟัง

หรือแม้แต่สายวิศวกร ทำงานเกี่ยวกับเคเบิลทีวีเจ้าใหญ่ วันเสาร์ อาทิตย์ เขาก็จะไปเป็นอาจารย์พิเศษในมหาลัย สอนด้านบริหารธุรกิจ ไม่ได้มีวันหยุดเลย เพราะบ้านเรายังขาดผู้จบปริญญาเอกอยู่มากครับ

และจะมีนักธุรกิจจำนวนมากเข้ามาเรียน มันเป็นประโยชน์กับเขาทั้งด้านวิชาความรู้ หรือ connection ซึ่งเขามองเห็นก่อนที่จะเข้ามาเรียนแล้ว

ปริญญาเอก เป็นเพียงก้าวย่างหนึ่งในชีวิต คุณเรียนประถมแล้ว ก็ต้องเรียนมัธยม เรียนโทแล้ว ก็เลยเรียนเอก เรียนเอกแล้ว เลยเรียนหลักสูตรหลัง ป.เอก หรือ Post-Doc. นับ 1-2-3 ก็ต้องนับไปถึง 10 แล้วถ้าต้องการนับถึง 100 มันก็อยู่ที่ว่า คุณอยากจะนับให้ถึงหรือป่าว

การเรียนไม่ว่าระดับใด เป็นประโยชน์กับคุณแน่นอนครับ ไม่ว่าคุณเรียนแล้ว คุณจะเอาปริญญาไปทำอะไร ถ้าคุณตั้งใจดี สิ่งดีๆ ก็จะเกิดกับคุณ ครับ

By ODevel