The Damned United

The Damned United

ไบรอัน คลัฟ สุดยอดกุนซือ

ปี 1974 ดอน เรวี่ ลาออกจาก ผจก.ทีม ลีดส์ ยูไนเต็ด เพื่อเข้ารับตำแหน่ง ผจก.ทีมชาติอังกฤษ ทิ้ง 13 ปีกับความยิ่งใหญ่ในการคุมทีมยูงทองไว้ ด้วยตำแหน่งแชมป์มากมาย ซึ่งผู้ที่เข้ามาแทนที่เขาคือ ไบรอัน คลัฟ ผจก.หนุ่ม ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากกับทีม ดาร์บี้ ในขณะนั้น

คลัฟ เข้าคุมทีม ดาร์บี้ ในปี 1967 เคียงข้างกับ ปีเตอร์ เทลเลอร์ ผู้ช่วยของเขา เพียงเวลาแค่ 5 ปี เขาทั้งสองพาทีมที่อยู่ก้นตาราง ดิวิชั่น 2 มาสู่แชมป์ ดิวิชั่น 1

แต่วันเวลาของคลัฟกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด กลับสั้นกว่าที่หลายๆคนคิดไว้ เพราะมันมีแค่ 44 วันเท่านั้น

หนัง ใช้วิธีตัดสลับเล่าเรื่อง สองเหตุการณ์เคียงคู่กัน ในช่วงที่ คลัฟ กับ เทลเลอร์ ร่วมกันสร้างทีม ดาร์บี้ ที่อยู่ท้ายดิวิชั่นสอง ให้มาจนได้แชมป์สูงสุดของประเทศ และในช่วงที่คลัฟตัดสินใจ บินเดี่ยว เข้าคุมทีม ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเพื่อนรักทั้งสองคนต้องขาดสะบั้น ลง

หนัง เหมือนจบลงที่ความพ่ายแพ้ของ คลัฟ แต่เรื่องต่อมาจากในหนังนั้น เป็นที่รู้กันว่า บุคคลที่ยิ่งใหญ่ ล้วนเคยพ่ายแพ้มาก่อน และเขาเมื่อเขาล้มลง เขาจะนำบทเรียนนั้นมาแก้ไขในครั้งต่อไปให้ดีขึ้น

ดอน เรวี่ ล้นเหลวอย่างสิ้นเชิงกับทีมชาติอังกฤษ กลับมคุมลีดส์ก็ไม่ดี สุดท้ายไปคุมทีม อาหรับเอมิเรสต์

ลีดส์ หมดยุคยิ่งใหญ่ในทันที เป็นลิเวอร์พูลที่ก้าวมาแทนที่ยาวนานนับสิบปี

ไบร อัน คลัฟ และ ปีเตอร์ เทลเลอร์ ไปปั้นทีมระดับอำเภออย่าง น๊อตติ้งแฮม ฟอร์เรสต์ จนได้แชมป์สูงสุด 1 สมัย และทำในสิ่งที่ ดอน เรวี่ และ ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้แค่ฝันถึงคือ แชมป์ยุโรเปี้ยน คัพ 2 สมัยซ้อน !!!!!!!

อ่านต่อ
http://www.dvdup2u.com/catalog.php?idp=3898

ODevel:

ผมเป็นคนไม่ดูฟุตบอล เพิ่งจะมาสนใจดูทีม Khon Kaen FC หลังจากที่ขึ้น ไทยแลนด์ พรีเมียลีก ปกติผมจะดูอเมริกันฟุตบอล

หนังเล่าเรื่องแบบเรียบๆ ในแบบอังกฤษ แต่เนื้อหาเข้มข้นมาก แม้ว่าจะสลับฉากย้อนไปย้อนมา ซึ่งทำให้ผมงง คือเล่าเรื่องตามลำดับน่าจะดีกว่านะ สำหรับหนังที่เอามาจากเรื่องจริง เพราะลำดับระยะเวลาเหตุการณ์สำคัญต่อการเข้าใจเนื้อเรื่อง

มีการถ่ายภาพแบบเหมือนการเอาภาพข่าวในอดีตมาย้อนให้ดู เป็นระยะ ซึ่งทำได้เหมือนภาพเก่าจริงๆ มากเลย และโดยรวมการถ่ายภาพทำได้นวลๆ ดี ส่วนฉากและสถานที่ต่างๆ ในแบบย้อนยุคไปในช่วงเวลานั้นก็ทำได้ดีเช่นกัน

สำหรับคนที่ชอบดูฟุตบอลและชอบดูหนัง คุณไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้ครับ

นักเตะที่ขึ้นมาเป็น ผู้จัดการทีมฟุตบอล จะมีปัญหาในเรื่องวิธีการบริหารธุรกิจ และมักจะขัดแย้งกับ เจ้าของทีมและบอร์ดบริหารเสมอ เพราะมีมุมมองและแนวทางที่แตกต่างกัน แต่ถ้าผู้จัดการทีม สามารถปรับตัวและเรียนรู้ในหลักการบริหารจัดการ จะทำให้เขาประสบความสำเร็จได้

ผู้จัดการทีม เป็นตัวอย่างของผู้ที่ถูกแซนวิสได้เป็นอย่างดี เพราะบอร์ดบริหารที่อยู่ด้านบน และ ลูกทีม ที่อยู่ด้านล่าง มีรูแบบเฉพาะและมีความแตกต่างกันอย่างมาก แตกต่างจากการบริหารในองค์กรทั่วๆ ไป ที่ลูกน้องเป็นพนังงานออฟฟิต

และการจัดการในแต่ละเกมส์การแข่งขัน มีเวลาตัดสินใจเพียง 90 นาทีเท่านั้น จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายผู้จัดการทีมเป็นอย่างมาก

สำหรับอเมริกันฟุตบอลจะมีตำแหน่ง GM หรือ General Manager ซึ่งจะทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างบอร์ดบริหารกับผู้จัดการทีม ในอเมริกันฟุตบอลจะเรียกว่า Head Coach และ GM จะจัดการในทุกเรื่องที่เป็นเรื่องธุรกิจ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาในเรื่องทักษะการบริหารจัดการของหัวหน้าโค้ช เช่น การซื้อผู้เล่น การจัดการบุคลากรด้านอื่นๆ นอกจากนักกีฬา การจัดการด้านการเงิน ฯลฯ ส่วนหัวหน้าโค้ชจะไปเน้นที่การทำทีม โดยไม่ต้องมากังวลเรื่องการบริหารจัดการทีม แต่มีหัวหน้าโค้ชที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์มาแล้ว จะมีการต่อรองกับบอร์ดบริหารว่า ขอตำแหน่ง GM ด้วย ถ้าต้องการให้เขาเข้ามาทำทีมให้ เพราะเขาต้องการคัดเลือกและต่อรองการซื้อขายนักกีฬาด้วยตัวเอง รวมทั้งการคัดเลือกทีมงานทั้งหมดเอง

ในฉากก่อนจบ ไบรอัน คลัฟ ได้เดินทางไปหาเพื่อนเก่า ปีเตอร์ เทลเลอร์

ไบรอัน: “นายจะยกโทษ และคืนดีกับฉันได้ไม๊”

เป็นประโยคที่ ปีเตอร์ ให้ ไบรอัน พูดตาม ก่อนที่เขาจะอภัยให้เพื่อนรักที่เคยทะเลาะกันอย่างแรงและเลิกติดต่อกันเป็นเวลานาน

ฉากที่ชายทั้งสองคนกอดกัน ไม่น่าเชื่อว่า มันซาบซึ่งมาก ไม่แพ้หนังรักที่หญิงชายกอดกันเลย

มิตรภาพของเพื่อน ไม่เคยแตกสลาย

Power by healthyskiner

AgeLoc Technology & Antioxidant