รมว.ไอซีที ระบุ ดาวเทียมไทยคม 5 ซึ่งมีพื้นที่การให้บริการครอบคลุมพื้นที่ 4 ทวีปหลุดวงโคจร ทำให้ทีวีเคเบิลจอมืดทั่วประเทศ ส่งผลให้ประชาชนที่ติดตั้งเคเบิล ตื่นตระหนกตอบรับกระแสข่าวลือทหารเตรียมก่อการปฏิวัติ ขณะเดียวกัน ทำ นายกฯ ตกใจผวากระแสปฏิวัติไปกับชาวบ้านด้วย ต่อสายตรงถึงราบที่ 11 ทันควัน ด้าน “องอาจ” ยัน 2 ทุ่มซ่อมเสร็จ
วันนี้ (21 เม.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า วันเดียวกัน สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 รวมทั้งสถานีฟรีทีวี หลายช่อง ได้เกิดจอดับเป็นเวลานาน ทำให้ประชาชนที่รับชมรายการตกใจ เกรงว่า จะเกิดการปฏิวัติขึ้นจริง จึงมีการเช็กข่าวสารมายังสื่อมวลชนต่างๆ
โดยที่ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 16.30 น.เป็นต้นมา กรณีสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ยกเว้นเอ็นบีทีเกิดสัญญาณล่ม ส่งผลให้ประชาชนใน จ.เชียงใหม่ แตกตื่น พากันโทรศัพท์เข้ามาสอบถามญาติมิตรกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงได้มีการพูดออกอากาศผ่านทางสถานีวิทยุชุมชนของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 กันเป็นเรื่องราวใหญ่โต โดยวิพากษ์วิจารณ์กันว่า อาจจะมีการปฏิวัติเกิดขึ้น ซึ่งหากมีการปฏิวัติทางกลุ่มคนเสื้อแดงได้พูดออกอากาศไว้ว่า จะพร้อมใจกันออกมารวมตัวประท้วงกลุ่มที่ปฏิวัติทันที
ระหว่างที่ยังไม่ทราบถึงสาเหตุของสถานีโทรทัศน์ล่มอยู่นี้ ทางเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ที่อยู่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ก็ได้พากันเสาะหาข้อมูล และเฝ้าระวังติดตามดูสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด
ด้าน นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีที แจ้งว่า ดาวเทียมไทยคม 5 หลุดวงโคจร ทำให้ทีวีเคเบิลจอมืดทั่วประเทศ ขณะนี้เร่งซ่อมแซมแล้ว แต่ยังสามารถรับชม asiaupdate tv ได้ทาง Internet
ทั้งนี้ ไทยคม 5 เป็นดาวเทียมรุ่น Aerospatiale SpaceBus 3000A (รุ่นเดียวกับไทยคม 3) สร้างโดย Alcatel Alenia Space ประเทศฝรั่งเศส มีพื้นที่การให้บริการครอบคลุมพื้นที่ 4 ทวีป ใช้เป็นดาวเทียมสำหรับการถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ตรงถึงที่พักอาศัยส่งขึ้นสู่วงโคจรเมื่อ 27 พฤษภาคม พ.ศ.2549 เพื่อทดแทน
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000049243
ไทยคม แจง ประจุไฟฟ้าดาวเทียมไทยคม 5 ขัดข้อง ทำระบบล่ม ส่งสัญญาณมายังภาคพื้นดินไม่ได้ ยัน ไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการดาวเทียมไอพีสตาร์ หรือ ไทยคม 4 และ ไทยคม 5 เปิดเผยถึงสาเหตุที่ทำให้ระบบออกอากาศผ่านดาวเทียมล่มทั่วประเทศ เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ของวันนี้ (21 เม.ย.) ว่า เกิดจากประจุไฟฟ้าของดาวเทียมไทยคม 5 บนอวกาศขัดข้อง ทำให้ดาวเทียมอยู่ในโหมดปิดตัวเองอัตโนมัติ ไม่สามารถส่งสัญญาณมายังภาคพื้นดินได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดเหตุขัดข้องขึ้น ดาวเทียมหันตัวเองไปทางดวงอาทิตย์และหยุดการเคลื่อนไหว แต่ไม่ได้หลุดวงโคจรแต่อย่างใด โดยสามารถกู้คืนได้ใน 3 ชั่วโมง จากปกติที่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 ชั่วโมง
นายอารักษ์ ยังกล่าวอีกว่า เหตุดังกล่าวเป็นการขัดข้องทางเทคนิค ไม่ใช่การกระทำของไทยคม และไม่เกี่ยวข้องทางการเมือง โดยไทยคมจะลดค่าบริการให้กับลูกค้าที่เช่าใช้ช่องสัญญาณไทยคม ระหว่างที่ออกอากาศไม่ได้
ลือปฏิวัติ! เหตุเคเบิ้ลทีวีจอมืด ที่แท้ไทยคม 5 ขัดข้อง
เคเบิ้ลทีวีทั่วประเทศจอมืด ตรวจสอบพบ ไทยคม 5 หลุดวงโคจร
วันนี้ (21 เมษายน) เคเบิ้ลทีวีทั่วประเทศสัญญาณการรับชมมีปัญหา และบางพื้นที่ไม่มีสัญญาณ หรือ จอดำ โดยเฉพาะในภาคอีสาน และภาคใต้ โดยเหตุดังกล่าวเกิดตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น. อย่างไรก็ตาม จากที่เคเบิ้ลทีวีจอมืด ทำให้เกิดกระแสข่าวลือไปทั่วว่า เป็นการเตรียมการปฏิวัติ!!! โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงได้มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าวทางสถานีวิทยุชุมชนของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ว่าอาจจะมีการปฏิวัติ และหากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงทางกลุ่มเสื้อแดงจะออกมาต่อต้านแน่นอน
ทั้งนี้ล่าสุด นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้ออกมาเปิดเผยว่า สาเหตุที่เคเบิ้ลทีวีมีปัญหาเป็นเพราะดาวเทียมไทยคม 5 หลุดวงโคจร โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจสอบแล้ว และคาดว่า ไม่เกินเวลาประมาณ 22.30 น. จะแก้ไขปัญหาได้ ส่วนทีวีที่ไม่ผ่านสัญญาณดาวเทียวตอนนี้ก็จะไม่มีปัญหาสามารถรับชมได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม เหตุดาวเทียมไทยคมมีปัญหาครั้งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้มีการคาดว่าน่าจะเกิดที่เครื่องส่งสัญญาณที่สถานีแคราย
ทางด้าน นายอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า เหตุเคเบิ้ลทีวีจอดำนั้นเป็นเรื่องของดาวเทียวไทยคม 5 ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเมืองหรือปฏิวัติแน่นอน และได้สั่งให้สถานีโทรทัศน์ทีวีทุกช่องให้ออกตัววิ่งแจ้งข้อมูลให้ประชาชนได้รับทราบถึงปัญหาดังกล่าว พร้อมทั้งกระจายข้อมูลตามวิทยุกระจายเสียงเพื่อไม่ให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริง และไม่แตกตื่น
http://hilight.kapook.com/view/58135
เพื่อนสมัยเรียน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เดินหน้าฟ้องร้อง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์เฟซบุ๊ก อีกครั้ง
นายคาเมรอน และ นายไทเลอร์ วิงเคิลวอส พี่น้องฝาแฝดและนายดิฟย่า นาเรนดรา เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เดินหน้าฟ้องร้อง นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์เฟซบุ๊ก อีกครั้ง ภายหลังยื่นเรื่องต่อศาลไป เมื่อปี 2551 ให้ศาลพิจารณาตัดสินให้ นายซัคเคอร์เบิร์ก มอบเงินแก่พวกเขา เพราะมูลค่าหุ้นขณะนั้นถูกปรับให้มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง และยังกล่าวหา นายซัคเคอร์เบิร์ก ด้วยว่า เป็นผู้ขโมยความคิดการจัดทำเว็บไซต์สังคมเครือข่ายเฟซบุ๊กไปจากพวกเขา ซึ่งมูลค่าเงินที่เขาควรได้รับนั้น สูงถึง 65 ล้านดอลลาร์
โดยแบ่งเป็นเงินสด 20 ล้านดอลลาร์และอีก 45 ล้านดอลลาร์ เป็นเงินจากมูลค่าหุ้นในฐานะที่ พวกเขามีส่วนคิดค้นการจัดทำเว็บไซต์เฟซบุ๊กด้วย โดย ศาลในนครซานฟรานซิสโก้ สหรัฐฯ กำลังพิจารณาคำร้องของสองพี่น้องฝาแฝดและนายนาเรนทรา อดีตเพื่อนของ นายซัคเคอร์เบิร์ก อีกหนึ่งคน ซึ่งหากศาลเห็นชอบก็จะทำให้กระบวนการฟ้องร้องเอาผิดกับนายซัคเคอร์เบิร์ก เดินหน้าต่อไปได้ แต่ นายซัคเคอร์เบิร์ก ปฏิเสธมาตลอดกับข้อกล่าวหาของกลุ่มเพื่อนดังกล่าว เขายืนยัน ไม่ได้ขโมยความคิดเรื่องการจัดทำเว็บไซต์เฟซบุ๊กมาจากใคร หากแต่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของตัวเขาเองทั้งสิ้น ซึ่งช่วงที่ผ่านมาตัวแทนเฟซบุ๊ก ต้องการให้ศาลยุติการฟ้องร้องอันน่าขมขื่นนี้ ในปี 2551 แต่ไม่ได้หมายความว่า นายซัคเคอร์เบิร์ก ยอมรับว่าได้ขโมยความคิดการจัดทำเว็บไซต์ดังกล่าว
สำหรับ คำตัดสินของศาล ว่าจะดำเนินการอย่างไรในคดีนี้ คาดว่าจะมีขึ้นในอีก 2 ถึง 3 เดือนข้างหน้าปัจจุบันมีผู้สมัครเข้าใช้เว็บไซต์เฟซบุ๊ก มากกว่า 500 ล้านคน ทำให้รายได้ของเฟซบุ๊ก ทะยานขึ้นอย่างมหาศาล จนทำให้ นายซัคเคอร์เบิร์ก ขึ้นทำเนียบมหาเศรษฐี อายุน้อยที่สุดในโลก
Eduardo: เมื่อไหร่นายจะทำ facebook เสร็จ
Zuckerberg: มันไม่มีวันเสร็จ เพราะ facebook เป็น fashion
--- คนที่ใช้ facebook คงจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงหน้าตาและการใช้งานของ facebook อยู่เสมอๆ
22 เมษายน 2554
ที่จุดปะทะชายแดนกัมพูชา ทหารไทยเสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บสิบกว่านาย จากการปะทะกับทหารกัมพูชา
