วันพุธที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553

Positioning การเมือง



Positioning การเมือง


Positioning คือ ตำแหน่งทางการตลาด แปลอีกทีว่า กลุ่มเป้าหมายการตลาด
เช่น เครื่องสำอางสำหรับผู้ชาย กลุ่มเป้าหมายเจาะจงในกลุ่มผู้ชาย เพราะตลาดนี้ ยังมีพื้นที่ว่างเยอะ อาจกำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็น ผู้ชายวัยทำงาน อายุ 20-35 ชอบเล่นกีฬา

กลุ่มเป้าหมายการตลาดจะมีขนาดเล็กลง และเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ทำให้มีรายการสินค้ามากขึ้น เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รสต้มยำ มี น้ำข้น น้ำใส ต้มแซบ คือ เน้นการทำตลาดขนาดเล็ก แบบ Niche Market

Positioning ของคนเสื้อแดง เป็นกลุ่มเกษตร ผู้ใช้แรงงาน ผู้มีรายได้น้อย พนักงานระดับปฏิบัติการของบริษัทขนาดเล็ก ข้าราชการในต่างจังหวัด กลุ่มคอมมิวนิสต์เก่า นักศึกษามหา’ลัย ครูโรงเรียนรัฐ อาจารย์มหา’ลัยหนุ่มๆ ตำรวจ แม่บ้าน

คำนิยามที่เรียกตัวเองว่า “ไพร่” จึงเป็นการกำหนดตำแหน่งฯ ของตัวเองให้ชัดเจนมากขึ้น และใช้เป็นจุดขายในการชุมนุม

ส่วนกลุ่มเสื้อเหลือง ได้แก่ พ่อค้า นักธุรกิจ พนักงานบริษัทขนาดใหญ่ ผู้บริหาร คนในอำเภอเมือง ผู้จบ ป.โท อาจารย์มหา’ลัย แพทย์ พยาบาล คนชนชั้นกลาง

ในทางการตลาด กลุ่มเสื้อแดง มี Brand Royalty เป็นแฟนพันธุ์แท้ จึงทำให้การตลาดทำได้ง่าย ผลิตอะไรมาก็มีคนรอซื้อ คล้ายๆ สินค้าของ Apple อย่าง iPhone, iPad

Toyota เคย Re-Positioning และ Re-Branding จากตำแหน่งการตลาดที่ต่ำกว่า Honda โดยปรับปรุงคุณภาพรถยนต์ ปรับราคาให้สูงขึ้น จาก Soluna และ Colona มาเป็น Vios และ Altis

จากการที่รัฐบาลไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ ทำให้ความนิยมในตัวนายกและรัฐบาลลดลง เป็นผลให้ตำแหน่งทางการตลาดเสียไป เหมือนนักร้องที่ขายหน้าตาอย่างเดียว แต่เสียงไม่ดี แต่งเพลงเองไม่เป็น

ที่ฟิลิปปินส์ ธนาคาร ห้างร้าน จะมี รปภ. ถือปืนลูกซอง เฝ้าหน้าร้าน หรือ สถานบันเทิงตอนกลางคืน มี รปภ. พร้อมปืนประมาณ 4 คน อยู่หน้าประตู และตรวจลูกค้าก่อนเข้าไปข้างใน คือ ประชาชน ห้างร้านต้องดูแลทรัพย์สินของตัวเองเอาเอง บ้านเรือนจะมีกำแพงสูง ประตูบ้านแข็งแรงหนาแน่ บางหลังมีประตูสองชั้น ถ้ามีฐานะหน่อยก็จะจ้างคนมาเฝ้าบ้านให้ เป็นตัวอย่างในอนาคตที่ไทยอาจจะเป็นแบบนั้น ถ้ารัฐบาลไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายเพื่อดูแลประชาชนได้

ถ้าแบ่งขั้วทางการเมืองเป็น เสื้อแดง-เพื่อไทย กับ เสื้อเหลือง-ประชาธิปปัตย์-ภูมิใจไทย ด้วย Brand ที่แข็งแกร่งของเสื้อแดง ไม่มีปัญหากับคะแนนเสียง ที่มีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาล

ส่วนขั้วประชาธิปัตย์ จะมีการแย่งคะแนนเสียงกันเอง ทำให้ ส.ส. ที่เคยสอบได้ อาจจะสอบตกได้ เพราะถูกพรรคการเมืองใหม่แบ่งคะแนนไป แต่เสียงของเสื้อเหลืองอาจจะไม่พอที่จะสอบได้ เอาไปเอามาอาจสอบตกทั้งสองฝ่าย แล้วเป็นพรรคอื่นชนะไป ส่วนภูมิใจไทยก็คงจะได้ ส.ส. เฉพาะพื้นที่ของตัวเอง ส่วน ส.ส. ที่ย้ายมาจากเพื่อไทย ก็อาจจะสอบตก เพราะประชาชนไปเลือก ส.ส. เพื่อไทยกันหมด โดยเฉพาะเขตอีสาน

สิ่งที่ประชาชนต้องเตรียมตัวคือ ต้องวางแผนชีวิตไว้ล่วงหน้า มีแผนสำรองไว้ด้วย โดยเฉพาะคนที่ทำการค้า ทำธุรกิจ เน้นการพึ่งตนเองให้ได้มากที่สุด เพื่อรับมือกับการเมืองที่ไม่แน่นนอน
By ODevel




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น