วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2553

ทุนนิยม vs พอเพียง

Sufficiency VS Capitalism

วิถีพอเพียง กับ ทุนนิยม เหมือนเส้นทาง คู่ขนาน ที่มิอาจมาบรรจบกันได้

เหมือน พ่อค้าที่คิดแต่เรื่องกำไร กับ ผู้ถือศีล 8 ที่คิดแต่เรื่องทำบุญ

เหมือน กุหลาบ ที่ทำได้เพียง ไปเสียบที่ปลายปืน รถถัง

ณ วันนี้เราเห็นแล้วว่า ทุนนิยมสุดขั้ว อย่างอเมริกา เศรษฐกิจล่มสลาย บริษัท 101 ปี อย่าง GM ต้องล้มละลาย ถึงวันนี้มีธนาคารเล็กใหญ่ในอเมริกา ล้มละลายแล้ว รวมกัน 104 ธนาคาร ธุรกิจของอเมริกายังจะไม่ฟื้นง่ายๆ แน่

วิกฤตครั้งนี้ส่งผลถึงทวีปยุโรป โดยเฉพาะยุโรปตะวันออก ที่เป็นประเทศเล็กๆ จน ผลมาถึง ดูไบ กับอสังหาริมทรัพย์ มูลค่ามหาศาล เกินกว่าที่ใครจะคิดทำได้ หลังไม่มีเงินชำระหนี้สิน มูลค่าอสังหาฯ ลดลงทันทีเหมือนขายของมือสอง

นิคม อุตสาหกรรม มาบตาพุด ถูกศาลสั่งให้หยุดดำเนินการ เพราะการขาดจริยธรรม การคิดถึงผู้มีส่วนได้เสีย ที่จะได้รับผลกระทบจากการผลิตสินค้าของตนเอง

คุณทำ CSR (Corporate Social Responsibility) เพื่อ ไม่ให้ประชาชนมาร้องเรียนเรื่องมลพิษ ไม่ให้มาต่อต้านน้ำเมา หรือ หวังผลจากการประชาสัมพันธ์ทางการตลาด เพื่อให้ภาพพจน์ของบริษัทดูดี

โลก ร้อน เพราะคนไม่คิดว่า สิ่งที่ตนเองได้ทำไป สุดท้ายจะย้อนกลับมาหาตนเอง เมื่อโลกถูกทำลาย คุณต้องอยู่ในบ้านแบบไหน ที่จะไม่ถูกน้ำท่วม ที่จะทนแดด ทนฝน ทนกับสภาพอากาศที่แปรปรวนตลอดเวลา พายุหิมะ อากาศร้อนเมือนอยู่ในทะเลทราย บ้านต้องเป็น เรือดำน้ำ อะครับ ถึงจะอาศัยอยู่ได้ในโลกอนาคตอันใกล้นี้

วิถีพอเพียง เหมือน ปลาแซลมอน ที่ว่ายทวนกระแสน้ำตกทุนนิยม เพื่อที่จะไปวางไข่ บนยอดเขา

เพราะ แนวคิดสวนทางกับทุนนิยม ที่เริ่มจากการให้ ความรัก คิดถึงความสมดุล พอดี พอเพียง พึ่งตนเอง ไม่เบียดเบียน ร่วมมือกัน ด้วย ความดี การอยู่ร่วมกัน แล้วเกิดการเรียนรู้ใหม่ด้วยกัน

มวลชนเป็นผู้ผลิต ด้วยความรู้ คู่คุณธรรม ไม่ใช่ผลิตมากๆ เพื่อมวลชน แล้วเบียดเบียนประชาชนที่อยู่ใกล้ เบียดเบียดโลก

ทุน นิยม คิดว่าจะต้องเอาเข้ามา แสวงหา ความมั่งคั่ง ร่ำรวย จากกระแส บริโภคนิยม และการตลาด ด้วยการแข่งขันแบบสุดโต่ง จากความรู้ เทคโนโลยี ที่นำพาไปสู่ เงิน กำไรสูงสุด และอำนาจ ผู้ใดอ่อนแอกว่า ก็ต้องพ่ายแพ้ เจ็บตัวกลับไป

ความขัดแย้งทางการเมืองในบ้านเรา เกิดจากความไม่พอเพียง ในอำนาจ ไม่รู้จักคำว่า ความดี คุณธรรม จริยธรรม เห็น กงจักรเป็นดอกบัว

เขียนไปแบบ พูดอยู่ข้างเดียว

ทุน นิยมไม่ได้ผิดอะไรครับ มันเป็นวิถีทางที่มนุษย์ส่วนใหญ่ต้องการ ไม่ว่าเงินทอง รถสวย บ้านหลังใหญ่ การมีหน้ามีตา ยศฐาบรรดาศักดิ์ และอำนาจ ขอเพียงท่านได้มันมาด้วย การไม่เบียดเบียนผู้อื่นมากจนเกินไป

นัก ศึกษาบริหารธุรกิจ เป็นสายทุนนิยมทั้งหมด เพราะเราเอาหลักสูตรของฝรั่งมา ไม่ได้คิดที่จะเอาภูมิปัญญาของตนเองประยุคเสริมเข้าไป ผมก็เป็นสายทุนนิยม ที่ก่อนหน้านี้ ไม่เคยสนใจ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเลย

ถ้าทุนนิยมจะนำวิถีพอเพียงไปใช้ได้หรือไม่

ผมคิดว่าได้ ถ้าใจท่านปรารถนา อย่างแท้จริง

ทุนนิยม คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ทำ ทำทีล่ะ 1 ล้าน 10 ล้าน ทำเร็วๆ รีบๆ แบบกิน ไวไว คลิก แล้วก็พลาดและเจ็บตัว

พอเพียง ทำจากเล็กไปใหญ่ จากในไปสู่นอก จากวิสาหกิจชุมชน สู่ตลาดใหญ่ แบบ OTOP

ถ้า ท่านต้องกู้เงินมาลงทุน ท่านควรกู้ตามกำลัง ที่ท่านสามารถจัดการมันได้ ไม่เกินกำลังตัวเอง ไม่เบียดเบียนตนเอง และครอบครัวที่จะต้องมารับหนี้สิน ที่พวกเขาไม่ได้ก่อขึ้น

ลองคิดที่จะ ให้ ก่อน ที่จะรับ ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สมกับราคา

ดูแลลูกจ้าง ของตนเอง ให้ได้ค่าตอบแทนที่เหมาะสม มีสวัสดิการพอสมควร เอาใจเขามาใส่ใจเรา

ดูมันก็ทำได้ไม่ยากนัก ที่สำคัญ คือควรทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ

มี บริษัท หนังสือเกี่ยวกับ แม่และเด็ก ประมาณนี้ เขาให้ พนักงาน ได้มีโอกาสถือหุ้นของบริษัทด้วย คือ เป็นบริษัทเล็กๆ ครับ มีกองทุนเงินออม เงินกู้ด้วย เพื่อไม่ให้ พนักงาน ต้องไปกู้ดอกเบี้ยแพงๆ เป็นรูปแบบบางส่วนของ สหกรณ์ (ดูจากช่อง Nation นี่แหละครับ) พนักงานก็จะได้ไม่เข้าออกบ่อยๆ เพราะรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนนึงของบริษัท อย่าง Microsoft ก็ให้พนักงานซื้อหุ้นในราคาที่ถูกกว่าในตลาด พนักงานในยุคบุกเบิก รวยไปตามๆ กันแล้ว ณ วันนี้

รูปแบบประมาณอย่างงี้อะครับ ทุนนิยมแบบjamวิถีพอเพียง ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า

การกลับไปทางเก่าเท่ากับเดินทางต่อ (ติช นัท ฮันท์)





..

CAPITALISM: A LOVE STORY


.. ..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น